ในวันที่ห้าเดือนมีนาคม ค.ศ. 1630 ชาวอังกฤษจำนวนกว่าพันคนได้ขึ้นฝั่งดินแดนที่ต่อมาจะกลายเป็นมวachusetts Bay Colony สถานการณ์นี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งอาณานิคมเพลิ mousse ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ 17
การอพยพครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มชาว Puritan ซึ่งนำโดย John Winthrop ได้รับอนุญาตจาก บริษัท Massachusetts Bay เพื่อก่อตั้งอาณานิคมใหม่ที่เป็นอิสระทางศาสนา
ชาว Puritans เชื่อว่าคริสต์จักรแห่งอังกฤษยังคงปนเปื้อนด้วยความเชื่อและพิธีกรรมคาทอลิก และพวกเขาต้องการสร้างสังคมใหม่ที่เคร่งครัดต่อหลักคำสอนของพระคัมภีร์
เมื่อมาถึงดินแดนใหม่ พวกเขาได้ก่อตั้งเมือง Boston และเริ่มดำเนินชีวิตตามแบบอย่างของตนเอง
นอกจากความมุ่งหมายทางศาสนาแล้ว การอพยพครั้งนี้ยังถูกผลักดันโดยปัจจัยอื่นๆ เช่น โอกาสทางเศรษฐกิจและการขาดแคลนที่ดินในอังกฤษ
การมาถึงของชาว Puritan ใน New England ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นเสมอไป พวกเขาพบว่าตนเองต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการเมือง
หนึ่งในความขัดแย้งที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นระหว่างชาว Puritan กับชาวพื้นเมืองอเมริกัน เช่น Tribes Wampanoag และ Pequot ชาว Puritans มองดินแดนนี้เป็นของตนโดยชอบธรรม เนื่องจากเชื่อว่าพระเจ้าทรงมอบให้ พวกเขาก่อตั้งอาณานิคมบนที่ดินของชาวพื้นเมืองและเริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ชาวพื้นเมืองไม่พอใจต่อการบุกรุกของชาว Puritan และความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายก็ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ การปะทะกันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และในที่สุดก็ทอดยาวไปเป็นสงคราม Pequot War (1636–1638)
Pequot War เป็นสงครามที่โหดร้ายและทำลายล้าง ชาว Puritan เอาชนะเผ่า Pequot และฆ่าชาว Pequot จำนวนมาก การสังหารหมู่ครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างชาว colonists และชาวพื้นเมือง
หลังจาก Pequot War ชาว Puritan ยังคงขยายตัวไปทั่ว New England แต่ความขัดแย้งกับชนเผ่าพื้นเมืองอื่นๆ ก็ยังคงดำเนินต่อไป
โครงสร้างสังคมและการเมืองของอาณานิคมเพลิ mousse
อาณานิคมเพลิ mousse ได้รับการปกครองโดยระบบ Theocracy ซึ่งศาสนากำหนดกฎหมายและค่านิยมของสังคม
ชาว Puritan เชื่อว่าพระเจ้าทรงเลือกให้พวกเขาเป็น “people of God” และพวกเขามีหน้าที่ในการสร้างชุมชนที่สมบูรณ์แบบตามแบบอย่างของพระคัมภีร์
ระบบการเมืองของอาณานิคมนี้มีลักษณะเฉพาะเจาะจง โดยผู้ชายที่เป็นสมาชิกโบสถ์เท่านั้นจะมีสิทธิเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ผู้หญิงและคนนอกศาสนาถูกกีดกันจากการมีส่วนร่วมในระบบการเมือง
บทบาทของสตรีในอาณานิคมเพลิ mousse
ในขณะที่ผู้ชายครองอำนาจทางการเมือง สตรีในอาณานิคมเพลิ mousse มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน
พวกเธอรับผิดชอบงานบ้าน การเกษตร และการเลี้ยงดูบุตร
สตรียังมีอิทธิพลต่อสังคมผ่านบทบาทของตนเองในครอบครัวและโบสถ์
กิจกรรมของสตรี | บทบาท |
---|---|
ทำงานในไร่ | การปลูกพืช, เลี้ยงสัตว์ |
งานฝีมือ | สาน, ร้อย, เย็บ |
คำนวณ | บัญชีครอบครัว |
การศึกษาบุตร | การสอนอ่าน, เขียน |
แม้ว่าสตรีจะไม่ได้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ก็มีความสำคัญต่อความอยู่รอดของอาณานิคม
บทสรุป
การก่อตั้งอาณานิคมเพลิ mousse เป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์อเมริกาอย่างมหาศาล การอพยพของชาว Puritan และการสร้างสังคมใหม่ตามหลักคำสอนของตนเองได้นำไปสู่การขัดแย้งทางวัฒนธรรมและการเมืองครั้งใหญ่
ความสัมพันธ์ระหว่างชาว Puritan และชาวพื้นเมืองอเมริกันถูกครอบงำด้วยความตึงเครียด และสงคราม Pequot War เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
แม้ว่าอาณานิคมเพลิ mousse จะสร้างขึ้นบนพื้นฐานของศาสนา แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาอเมริกาในฐานะดินแดนแห่งเสรีภาพและโอกาส